ความจริงพระวจนะเกี่ยวกับนรก
ผมคิดว่าในเรื่องความตายนั้นผู้เชื่อในพระเจ้ายังไม่ค่อยมีการสอนการฟันธงที่ชัดเจน เพราะไม่เคยมีใครเคยตายแล้วฟื้นเพื่อมาเขียนบทเรียนบรรยายเรื่องชีวิตหลังความตาย แต่พระวจนะได้เขียนไว้ให้แก่เราจนเราทราบได้อย่างเข้าใจ ว่าเราตายแล้วเราจะไปไหน ในระบบที่พระเจ้าวางไว้นั้น พระเจ้าจะจัดการอย่างไรต่อ
ผมขอเปรียบว่าร่างกายเราเหมือนรถ เมื่อรถเสีย ขับต่อไม่ได้แล้วคนขับก็เดินออกมาจากรถ

แต่คำถามคือ?
ปญจ 3:21 ใครรู้ว่าจิตวิญญาณของมนุษย์ไปสู่เบื้องบนหรือเปล่า และวิญญาณของสัตว์เดียรัจฉานลงไปสู่พิภพโลกหรือเปล่า
เรารู้ว่าที่สวรรค์มีลักษณะของสัตว์บางประเภทที่หน้าพระที่นั่ง ซึ่งยังไม่ขอพูดถึงในเวลานี้
เรามาให้ความสำคัญของเรื่องจิตวิญญาณของมนุษย์ ไปที่ไหนกันก่อน?
เรามาดูในภาษาฮีบรูเรียกสถาานที่แห่งความตายไว้สองคำที่น่าสนใจคือ เชโอลsheol ภาษากรีกเรียก ฮาเดช hades
และอีกสถานที่คือ ฮินโนม hinnom ภาษาฮีบรู ส่วนภาษากรีกเรียกเกเฮน่า gehenna
และอีกสถานที่คือ ฮินโนม hinnom ภาษาฮีบรู ส่วนภาษากรีกเรียกเกเฮน่า gehenna
เชโฮล หมายถึงหลุมศพ เป็นที่ฝังร่างผู้ตาย หรือ อุโมค์ฝังศพ หรือเรียกว่าเรียกปากแดนผู้ตายด้วย หรือใน มธ28:1 ใช้เรียกอุโมงค์ของพระเยซู อิสยาห์ 5:14 เพราะฉะนั้นแดนคนตายก็ขยายคอของมันออก และอ้าปากเสียเกินขนาด และพวกเจ้านายของเยรูซาเล็ม และมวลชนของเมืองนั้นก็ลงไป
แดนคนตายตรงนี้ก็ใช้คำว่า เชโอล หรือใน สภษ27:20 แดนผู้ตายและแดนพินาศไม่รู้จักอิ่ม
ยาโคบก็บอกว่าตนเองจะไปยัง เชโอล ปฐก37:35 ”อย่าเลย เราจะโศกเศร้าถึงลูกเราจนกว่าเรา จะตามลงไปยังแดนคนตาย"ฉะนั้นการอยู่ที่เชโอนมีทั้งผู้เชื่อและผู่ที่ไม่เชื่อด้วย
"เชโอล" คือหลุมฝังศพทั่วไปของมนุษยชาติ เป็นสถานที่ในเชิงเปรียบเทียบที่ซึ่งมนุษยชาติส่วนใหญ่หลับอยู่ในความตาย.
ในความตายระดับ เชโอน พระเยซูอธิบายในอุปมาของพระองค์ว่า
22 อยู่มาคนขอทานนั้นตาย และเหล่าทูตสวรรค์ได้นำเขาไปไว้ที่อกของอับราฮัม ฝ่ายเศรษฐีนั้นก็ตายด้วย และเขาก็ฝังไว้
23 แล้วเมื่ออยู่ในแดนมรณาเป็นทุกข์ทรมานยิ่งนัก เศรษฐีนั้นจึงแหงนดูเห็นอับราฮัมอยู่แต่ไกล และลาซารัสอยู่ที่อกของท่าน
อกของอับราฮัม เป็นดินแดนหนึ่งที่เป็นที่พักสงบของผู้ที่เชื่อในพระเจ้า
หรือเรียกว่าเมืองบรมสุขเกษม พระเยซูก็บอกโจรที่ไม่กางเขนเช่นกันว่าเจอกันที่เมืองบรมสุขเกษม
เป็นสถานที่จำลองส่วนหนึ่งของสวรรค์ บ้างก็เรียกว่าเป็นสวรรค์ชั้น 2 เป็นอีกมิติของสวรรค์ชั้น 1คือท้องฟ้าของโลก ส่วนสวรรค์ชั้นสามคือ สวรรค์ จริงๆ เป็นการเรียกเพื่อแบ่งอณาเขตความเข้าใจ
ไม่มีในพระคัมภีร์
2 โครินธ์12:2, “ข้าพเจ้าได้รู้จักชายคนหนึ่งผู้เลื่อมใสในพระคริสต์สิบสี่ปีมาแล้ว เขาถูกรับขึ้นไปยังสวรรค์ชั้นทีสาม
ขณะที่ผู้ที่พระเจ้าไม่เอานั้นไม่ได้ไปที่เมืองบรมสุขเกษมแต่เป็นการถูกไฟเผาที่แดนมรณา
มาดูที่เชโอนกันต่อนะครับ
23 แล้วเมื่ออยู่ในแดนมรณา (เชโอน) เป็นทุกข์ทรมานยิ่งนัก เศรษฐีนั้นจึงแหงนดูเห็นอับราฮัมอยู่แต่ไกล และลาซารัสอยู่ที่อกของท่าน
24 เศรษฐีจึงร้องว่า 'อับราฮัมบิดาเจ้าข้า ขอเอ็นดูข้าพเจ้าเถิด ขอใช้ลาซารัสมา เพื่อจะเอาปลายนิ้วจุ่มน้ำมาแตะลิ้นของข้าพเจ้าให้เย็น ด้วยว่า้าพเจ้าตรำทุกข์ทรมานอยู่ในเปลวไฟนี้'
25 แต่อับราฮัมตอบว่า 'ลูกเอ๋ย เจ้าจงระลึกว่าเมื่อเจ้ายังมีชีวิตอยู่ เจ้าได้ของดีสำหรับตัว และลาซารัสได้ของเลว แต่เดี๋ยวนี้เขาได้รับความล้าโลม แต่เจ้าได้รับความแสนระทม
26 นอกจากนั้น ระหว่างพวกเรากับพวกเจ้ามีเหวใหญ่ตั้งขวางอยู่ เพื่อว่าถ้าผู้ใดปรารถนาจะข้ามไปจากที่นี่ถึงเจ้าก็ไม่ได้ หรือถ้าจะข้ามจากที่ั่นมาถึงเราก็ไม่ได้'
ในระดับจิตวิญญาณนั้นนั้นมีการแบ่งกันชัดเจนคือการพักสงบและการถูกเผา
มีฑุตตนหนึ่งคือ Abaddon หรืออับดุล เป็นฑุตแห่งการล้างผลาญ อยู่ในพื้นที่ เชโอน
วิวรณ์ 9:11 มันมีทูตแห่งช่องบาดาลนั้นเป็นกษัตริย์ปกครองมัน ชื่อทูตแห่งช่องบาดาลนั้น ภาษาฮีบรูเรียกว่าอาบัดโดน และภาษากรีกเรียกว่าอปอลลิยน (Apollian)
อับดุลเป็นกษัตริย์ ปกครอง หรือเราเรียกมัจจุราชก็น่าจะพอเห็นภาพ ส่วนกรีกเขียนว่าอปอลลิยน เป็นชื่อกองพันที่ 15 ของโรมที่เข้าไปทำลายกรุงเยรูซาเล็ม
โยบ 26:6 6 แดนคนตาย(sheol) เปลือยอยู่ต่อพระพักตร์พระเจ้า และแดนพินาศ (Abaddon) ไม่มีผ้าห่ม
โยบ 28:22: การทำลาย และความตาย (Abaddon)กล่าว ..
โยบ 28:22: การทำลาย และความตาย (Abaddon)กล่าว ..
สภษ15:11 แดนผู้ตาย(sheol) และแดนพินาศ(Abaddon) ก็ประจักษ์แจ้งอยู่เฉพาะพระเจ้า ใจของมนุษย์จะแจ้งเฉพาะพระองค์ยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด
อย่างไรก็ตามความตายในระดับ เชโอล นี้เป็นความตายที่จะฟื้นขึ้น
กจ24:15 ข้าพเจ้ามีความหวังใจในพระเจ้า ตามซึ่งเขาเองก็มีความหวังใจด้วย คือหวังใจว่าคนทั้งปวงทั้งคนที่ชอบธรรม และคนที่ไม่ชอบธรรมจะเป็นขึ้นมาจากความตาย (เชโอน)
วว 20:13 ทะเลก็ส่งคืนคนทั้งหลายที่ตายในทะเล ความตายและแดนมรณา(เชโอน) ก็ส่งคืนคนทั้งหลายที่อยู่ในแดนนั้น และคนทั้งหลายก็ถูกพิพากษาตามการระทำของตนหมดทุกคน
……
ส่วนเกเฮน่า Gehenna ที่มาจากคำว่า ฮินโนม hinnom ในภาษาฮีบรู คือนรกชุมลึก ที่มีการพิพากษาแล้ว
ความหมายของภาษามาจาก หุบเขาของฮินโนม ที่นั่นเป็นที่ทำการชั่วร้ายของกษัตริย์อาหัส และมนัสเสห์และชื่อสถานที่ จึงถูกเรียกขึ้นเพื่อแทนคำว่านรก เราเห็นวัฒนธรรมการเรียกนรกของยิวจากสิ่งที่เขาเอามาเปรียบตลอด เช่นที่กล่าวไปคือ เรียก Apollian ฑุตแห่งการล้างผลาญมาจาก ชื่อกองทัพโรมมัน กองพันที่15 ที่เข้ามาทำลายกรุง ฮินโนมถูกนำมาแทนคำว่านรกก็เช่นกัน มาดูประวัติพระคัมภีร์บันทึกว่า
2 พศด 28:3 และพระองค์ (อาหัส)ทรงเผาเครื่องหอมที่หุบเขาบุตร”ฮินโนม” และทรงเผาบรรดาโอรสของพระองค์เป็นเครื่องบูชา
2 พศด 33:6 และพระองค์ (มนัสเสห์) ได้ทรงถวายโอรสของพระองค์ให้ลุยไฟ เป็นเครื่องบูชาในหุบเขาบุตร”ฮินโนม” ถือฤกษ์ยาม เวทมนตร์ วิทยาคม และติดต่อกับนทรงและพ่อมดแม่มด พระองค์ทรงกระทำสิ่งที่ชั่วร้ายเป็นอันมากในสายพระเนตรพระเจ้า กระทำให้พระองค์ทรงพระพิโรธ
ชื่อของสถานที่แห่งนั้นจึงกลายเป็นชื่อเรียกสถานที่แห่งการถูกทำลายอย่างสิ้นซาก หรือใช้แทนนรกของคนที่ถูกพิพากษาแล้ว
ยรม 7:31 และได้สร้างที่สูงของโทเฟท ซึ่งอยู่ในหุบเขาแห่งบุตรชายของ “ฮินโนม” เพื่อจะเผาบุตรชายและบุตรหญิงของเขา ทั้งหลายเสียด้วยไฟ ซึ่งรามิได้บัญชา และไม่เคยมีขึ้นในใจของเรา

จาดวัฒนธรรมการทิ้งซากศพและขยะที่หุบเขาแห่งนี้ ซึ่งกลายเป็นหุบเขาแห่งความตาย
และถูกใช้แทนด้วยคำว่าเกฮิน่า gehenna มาจาก เกฮิมโนม Gehinnom นั่นเอง เป็นภาษาอารเมอิก Gēhannā (ܓܗܢܐ)

พระเยซูใช้คำนี้ บ่อยๆ เช่น มธ 10:28 อย่ากลัวผู้ที่ฆ่าได้แต่กาย แต่ไม่มีอำนาจที่จะฆ่าจิตวิญญาณ แต่จงกลัวพระองค์ผู้ทรงฤทธิ์ ที่จะให้ทั้งจิตวิญญาณทั้งกายพินาศในนรก (gehenna) ได้
หรือ มก9:47 ถ้าตาของท่านทำให้ท่านหลงผิด จงควักออกทิ้งเสีย ซึ่งจะเข้าในแผ่นดินของพระเจ้าด้วยตาข้างเดียวยังดีกว่ามีสองตา และต้องถูกทิ้งไปในนรก (gehenna) 48 ในที่นั้นตัวหนอนก็ไม่ตายและไฟก็ไม่ดับเลย
หรือ มธ18:8 ถ้ามือหรือเท้าของท่านทำให้ท่านหลงผิด จงตัดทิ้งเสีย ซึ่งจะเข้าในชีวิตนิรันดร์ด้วยมือและเท้าด้วน หรือพิการยังดีกว่ามีสองมือสองเท้า ละต้องถูกทิ้งในไฟซึ่งไหม้อยู่เป็นนิตย์
9 ถ้าตาของท่านทำให้ท่านหลงผิด จงควักออกทิ้งเสีย ซึ่งจะเข้าในชีวิตด้วยตาข้างเดียว ยังดีกว่ามีสองตาและต้องถูกทิ้งไปในไฟนรก (gehenna)
บทสรุปส่งท้าย
13 ทะเลก็ส่งคืนคนทั้งหลายที่ตายในทะเล ความตาย และแดนมรณา (เชโอลsheol)ก็ส่งคืนคนทั้งหลายที่อยู่ในแดนนั้น และคนทั้งหลายก็ถูกพิพากษาตามการระทำของตนหมดทุกคน
14 แล้วความตาย และแดนมรณาก็ถูกผลักทิ้งลงไปในบึงไฟ บึงไฟนี่แหละเป็นความตายครั้งที่สอง "Gehinnom”เกฮิมโนน เกเฮน่า หรือฮิมโนน นั่นเอง
ฉะนั้นเราจึงสรุปได้ว่า การฟื้นขึ้นนั้นมีจริง นรกมีจริง การลงโทษมีจริง และการพิพากาานั้นก็ มีจริง และสิ่งเหล่านี้เป็นทางเลือก เพื่อใช้คำว่า นิรันดร์ ต่อท้าย จะชีวิตนิรัดร์ หรืออับอายนิรัดร์ เท่านั้น
ดนล 12: 2 และคนเป็นอันมากในพวกที่หลับ ในผงคลีแห่งแผ่นดินโลกจะตื่นขึ้น บ้างก็จะเข้าสู่ชีวิตนิรันดร์ บ้างก็เข้าสู่ความอับอายและความขายหน้านรันดร์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น