นามและการนมัสการ
จากข้อพระคัมภีร์
"สูงยิ่งเหนือบรรดาเทพผู้ครอง เหนือศักดิเทพ เหนืออิทธิเทพ เหนือเทพอาณาจักร และเหนือนามทั้งปวงที่เขาเอ่ยขึ้น มิใช่ในยุคนี้เท่านั้นแต่ในยุคที่จะมาถึงด้วย"
จากการอ่านข้อนี้ทำให้ทราบว่า นามของพระเยซู ถูกยกขึ้นสูง ทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคต
เพราะอะไรจึงมีการกล่าวถึงนามในอนาคตด้วย? ตรงนี้ตั้งเป็นประเด็นให้คิดนะครับ
ประการแรกเลยคือ พระเจ้าสร้างสรรพสิ่งด้วยพระวาทะ
มนุษย์นั้นมี “พระวาทะของพระเจ้าในชีวิต” พระเจ้าระบายพระวิญญาณพระองค์ในมนุษย์
มนุษย์สามรถตั้งชื่อสัตว์ หรือเนรมิตรคำใหม่ๆได้ และเป็นคำวิเศษ ซึ่งแทนความหมายต่างๆ
ทูตสวรรค์ไม่มี หรือสัตว์ ก็ไม่มีสิ่งเหล่านี้
ตรงนี้เป็นจุดเเข็งของมนุษย์ที่มีมากกว่าฑูตสวรรค์และเหล่าวิญญาณชั่ว
เมื่อวิญญาณชั่วมารบกวนท่านสั่งด้วยความเชื่อในนามพระเยซู มันจึงไป
นั่นเพราะท่านมีพระวาทะของพระเจ้าในชีวิต อำนาจของพระเจ้า ที่ส่งผ่านมายังคนของพระเจ้า
ขณะเดียวกันมารก็ใช้จุดเเข็งนี้เป็นจุดอ่อน
เมื่อพระเจ้าแยกโลกทางฝ่ายเนื้อหนังความสว่างกับโลกความมืดทางฝ่ายวิญญาณออกจากกัน
ฝ่ายวิญญาณมืดนั้นปารถนาอย่างยิ่งที่จะทะลุเข้ามา เพื่อครอบงำมนุษย์ทางฝ่ายเนื้อหนังที่มีพระวาทะของพระเจ้าในชีวิต คือจ้องตะบบเลย
ทางที่จะเกิดขึ้นคือการสร้างนาม หรือสร้างตัวตนขึ้นในโลกฝ่ายเนื้อหนัง และผู้ที่สร้างก็คือมนุษย์ที่มีพระวาทะของพระเจ้า
และมนุษย์ก็สร้างนามต่างๆขึ้น และประดิษฐ์เป็นรูปเคารพ
มีนามต่างๆเกิดขึ้นมาตลอดยุคสมัย เกิดและดับไป
เหล่านี้จึงเป็นสิ่งที่พระเจ้าสะอิดสะเอียน คือขยะแขยง รังเกียจ
พฤติกรรมเหล่านี้
เรามาโฟกัสดูในประเทศไทยของเรา มีนามต่างๆเกิดขึ้นมากมาย มาจากสองสาย หนึ่งคือสายเทพ เช่น จัตุคาม รามเทพ สยามเทวธิราช ฯลฯ เป็นนามบรรดาเทพผู้ครอง เหนือศักดิเทพ เหนืออิทธิเทพ เทพอาณาจักร ที่เข้ามาสวมและสร้างฤทธิเดชให้คนเชื่อศรัทธาและเดินตาม
สายที่สองคือสายมนุษย์ เช่น มีตั้งแต่ชื่อชาวบ้าน อย่าง แม่นากพระโขนง ไปจนถึงเชื้อพระวงค์กษัตริย์ และชื่อเกจิพระดังๆต่างๆ ซึ่งกลายเป็นรูปเคารพ
เกิดนามใหม่ๆขึ้น เพื่อให้คนเคารพศรัทธากราบไหว้นมัสการและปรนนิบัติ
นี่เป็นที่พึ่งทางใจของมนุษย์ มารพบจุดอ่อนนี้ และใช้ได้ผลเสมอมา
ทางอิสราเอล คนของพระเจ้าพบเจอปัญหารูปเคารพอยู่ตลอดเช่นกัน ตั้งแต่วัวทองคำ
ส่วนการยกมนุษย์ที่ต้องตายขึ้นกราบไหว้ ก็มีเหตุการณ์เช่นกัน อยากให้พิเคราะห์เป็นอุทาหรณ์
เมื่อโมเสสตาย ทันทีที่ตาย วิญญาณท่านออกจากร่าง พระเจ้าส่งมีคาเอลคุ้มกัน
ซาตานมาทันทีเตรียมตะบบ และเตรียมเกิดศึกชิงศพโมเสส
ยูดา 1:9 ฝ่ายอัครเทวทูตาธิบดีมีคาเอล ครั้นเมื่อท่านโต้เถียงกับพญามารเรื่องศพของโมเสส ท่านเองก็ยังไม่บังอาจตั้งข้อกล่าวหาอย่างเย้ยหยันต่อมารเลย ได้แต่เพียงกล่าวว่า "ขอให้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงห้ามเจ้าเถิด"
ยูดา 1:9 ฝ่ายอัครเทวทูตาธิบดีมีคาเอล ครั้นเมื่อท่านโต้เถียงกับพญามารเรื่องศพของโมเสส ท่านเองก็ยังไม่บังอาจตั้งข้อกล่าวหาอย่างเย้ยหยันต่อมารเลย ได้แต่เพียงกล่าวว่า "ขอให้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงห้ามเจ้าเถิด"
ร่างของโมเสส สำคัญไฉน ทำไมพระเจ้าต้องสั่งมาอารักษ์ขาและซ่อนไว้
แต่เมื่อคนอิสราเอลนำมากราบไหว้ จะเกิดนามใหม่ขึ้นคือพระโมเสสเจ้า (สมมุติ)
อาจมีการขอหวย ขอพร ขอโชคลาภ บนบาน และโมเสสเจ้าที่ประทานพรให้ ก็จะเป็นเหล่าวิญาณชั่วที่เข้ามา ในนามนั้น เพื่อครอบงำ อิสราเอล ฉะนั้นพระเจ้าจึงเก็บร่างดินโมเสสไป และฉะนั้นซาตานจึงรีบมาตะครุบศพโมเสสทันที
ในอสค 43:7-9 จึงกล่าวถึงศพที่ไร้ชีวิตว่า เป็นรูปเคารพ และพระองค์สะอิดสะเอียน
7 และพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า "บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย บัลลังก์ของเราและสถานที่วางเท้าของเราอยู่ที่นี่ เป็นที่ที่เราจะอยู่ท่ามกลางชนชาติอิสราเอลเป็นนิตย์ และวงศ์วานอิสราเอลจะไม่กระทำให้นามบริสุทธิ์ของเราเป็นมลทินอีก โดยตัวของเขาทั้งหลายเองหรือกษัตริย์ของเขาทั้งหลาย ด้วยการเล่นชู้ของเขาทั้งหลาย และด้วยศพของกษัตริย์ของเขาทั้งหลายในปูชนียสถานสูง
8 โดยการวางธรณีประตูของเขาทั้งหลายไว้ข้างธรณีประตูทั้งหลายของเรา โดยการตั้งเสาประตูของเขาทั้งหลายไว้ข้างเสาประตูทั้งหลายของเรา มีเพียงผนังกั้นไว้ระหว่างเรากับเขาทั้งหลายเท่านั้น เขาได้กระทำให้นามบริสุทธิ์ของเราเป็นมลทินด้วยการอันน่าสะอิดสะเอียนของเขาซึ่งเขาทั้งหลายได้กระทำ ดังนั้นเราจึงเผาผลาญเขาเสียด้วยความกริ้วของเรา
9 บัดนี้ให้เขาทิ้งการเล่นชู้ทั้งหลายของเขาและศพของกษัตริย์ทั้งหลายของเขาให้ห่างไกลจากเรา และเราจะอยู่ท่ามกลางเขาทั้งหลายเป็นนิตย์
7 และพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า "บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย บัลลังก์ของเราและสถานที่วางเท้าของเราอยู่ที่นี่ เป็นที่ที่เราจะอยู่ท่ามกลางชนชาติอิสราเอลเป็นนิตย์ และวงศ์วานอิสราเอลจะไม่กระทำให้นามบริสุทธิ์ของเราเป็นมลทินอีก โดยตัวของเขาทั้งหลายเองหรือกษัตริย์ของเขาทั้งหลาย ด้วยการเล่นชู้ของเขาทั้งหลาย และด้วยศพของกษัตริย์ของเขาทั้งหลายในปูชนียสถานสูง
8 โดยการวางธรณีประตูของเขาทั้งหลายไว้ข้างธรณีประตูทั้งหลายของเรา โดยการตั้งเสาประตูของเขาทั้งหลายไว้ข้างเสาประตูทั้งหลายของเรา มีเพียงผนังกั้นไว้ระหว่างเรากับเขาทั้งหลายเท่านั้น เขาได้กระทำให้นามบริสุทธิ์ของเราเป็นมลทินด้วยการอันน่าสะอิดสะเอียนของเขาซึ่งเขาทั้งหลายได้กระทำ ดังนั้นเราจึงเผาผลาญเขาเสียด้วยความกริ้วของเรา
9 บัดนี้ให้เขาทิ้งการเล่นชู้ทั้งหลายของเขาและศพของกษัตริย์ทั้งหลายของเขาให้ห่างไกลจากเรา และเราจะอยู่ท่ามกลางเขาทั้งหลายเป็นนิตย์
ฉะนั้นทันทีที่เสียชีวิต ร่างนั้นว่างเปล่า ไว้อาลัยและทิ้
งกลับเป็นดิน
งกลับเป็นดิน
หรือนำร่างนั้นนำมาไหว้ สร้างนามใหม่ ที่เป็นที่ยึดเหนี่ยวใจ มีนามใหม่เกิดขึ้น เป็นที่อาศัยของเหล่าวิญาณชั่ว นั่นจึงเป็นรูปเคารพ
และคนที่สร้างนามใหม่นั่นก็คือมนุษย์ เพื่อต่อต้านพระเจ้า
เอาศักดิ์ศรีที่พระเจ้าให้ไปแลกกับรูปมนุษย์ที่ต้องตาย
รม1:23 และเขาได้เอาสง่าราศีของพระเจ้าผู้เป็นอมตะ มาแลกกับรูปมนุษย์ที่ต้องตายหรือรูปนก รูปสัตว์สี่เท้า และรูปสัตว์เลื้อยคลาน
รม1:23 และเขาได้เอาสง่าราศีของพระเจ้าผู้เป็นอมตะ มาแลกกับรูปมนุษย์ที่ต้องตายหรือรูปนก รูปสัตว์สี่เท้า และรูปสัตว์เลื้อยคลาน
ฉะนั้นไม่ใช่แค่กราบไหว้ แต่มีส่วนร่วมเท่านั้นก็ถือเป็นการปรนนิบัติ
รูปเคารพเป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านพระเจ้า ที่อาศัยของมาร
คนของพระเจ้าปรกติ จึงไม่ควรมีส่วนร่วมยุ่งเกี่ยว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น