วันอาทิตย์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2561



ประมวลเหตุการณ์ การเสด็จมาผ่านทางข้อพระคัมภีร์

การพยากรณ์ของพระคัมภีร์มีหลายที่หลายแห่งที่นั่นนิดที่นี่หน่อย ตามสไตล์การเปิดเผยของพระเจ้า แบบบรรทัดซ้อนบันทัดกฎซ้อนกฎที่นั้นนิดที่นี่หน่อย
ทำให้คนที่ตั้งใจศึกษาต้องควานหาทั้งเล่มเเละต้องจดจำไว้  และนำมาเขียนเป็น Time line  แล้วจึงเอาข้อพระคัมภีร์ที่พยากรณ์นั้นใส่เข้าไป  บางที่ก็ยากมากสำหรับหลายๆท่าน
ผมตั้งใจไว้หลายรอบที่จะประมวลพระธรรมวิวรณ์ไว้ให้ศึกษา ช่วงนี้ข่าวการสร้างวิหารเริ่มชัดเจนเหลือเกิน ตอนนี้ก็ประมวลเป็นเหตุการต่างๆที่ถูกพยากรณ์ เอาไว้ ในเรื่องเหตุการณ์ก่อนเสด็จมา มาเรียบเรียงให้อ่านก่อน พระเจ้านั้นอยากเปิดเผยแก่คนของพระองค์มาก  เรียกว่าละเอียดพอสมควรเลย ว่าจะมีหมายสำคัญอะไรก่อนวันเสด็จมา  ฉะนั้นเราสามารถทราบได้ว่า ช่วงเวลาไหน  ใครมาบอกว่าวันนั้นโมงนั้นไม่มีใครรรู้ไม่ต้องศึกษาหรอก เป็นความคิดที่พลาดมหันต์  เพราะถ้าศึกษา วันนั้นโมงนั้นไม่รู้ก็จริงแต่สัปดาห์ไหนช่วงไหน รู้ได้แน่นอนครับ

ผมขอมาจัดลำดับพระคัมภีร์ตามเหตุการณ์นะครับ เป็นเบื้องต้น
 
ดนล. 9:26 ที่สุดปลายของมันจะมาถึงด้วยน้ำท่วม จนกระทั่งที่สุดจะมีสงคราม มีความวิบัติที่กำหนดไว้

27 ท่านจะทำพันธสัญญาเข้มแข็งกับคนเป็นอัน มากอยู่หนึ่งสัปตะ (7ปี)
  
2 ธส 2:3 อย่าให้ผู้หนึ่งผู้ใดล่อลวงท่านโดยทางหนึ่งทางใดเลย เพราะว่าวันนั้นจะไม่มาถึง เว้นแต่จะมีการล้มลงเสียก่อน และคนแห่งการบาปนั้นจะประจักษ์แจ้ง คือลูกแห่งความพินาศ
ดนล 11. 31 กองทัพของเขาจะมาทำสถาน นมัสการ คือป้อมปราการให้เป็นมลทินและจะให้ เลิกเครื่องเผาบูชาเนืองนิตย์นั้นเสีย และเขาทั้งหลายจะตั้งสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน ซึ่งกระทำให้เกิดความวิบัติขึ้น

มธ 24. 15 "เหตุฉะนั้นเมื่อท่านทั้ง หลายเห็นสิ่งอันน่าสะอิดสะเอียน ซึ่งกระทำให้เกิดความวิบัติ ตามพระวจนะที่ตรัสโดยดาเนียลผู้เผยพระวจนะนั้น ตั้งอยู่ในสถานบริสุทธิ์ (ให้ผู้อ่านเข้าใจเอาเถิด)16 เวลานั้นให้ผู้ที่อยู่ในแคว้นยูเดียหนีไปยังภูเขา
ยอล 1:15 อนิจจาหนอวันนั้น เพราะวันแห่งพระเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว วันนั้นจะมา เป็นการทำลายจากองค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ยอล

2:2 เป็นวันแห่งความ มืดและความมืดครึ้ม เป็นวันที่มีเมฆและความมืดทึบ ประชากรจำนวนมากและมีกำลังยิ่ง ปกคลุมอยู่บนภูเขาดำทะมื่นไปมด ตั้งแต่สมัยโบราณก็ไม่เคยมีเหมือนอย่างนี้ และตั้งแต่นี้ไปก็จะไม่มีอีก ตลอดปีทั้งหลายชั่วชาติพันธุ์
ศคย12 2 "ดูเถิด เรากำลังจะทำกรุงเยรูซาเล็มให้เป็นถ้วยน้ำเมาสำหรับบรรดาชนชาติทั้งหลายที่ อยู่ล้อมรอบ ถ้วยนั้นจะอยู่เหนือยูดาห์เมื่อกรุงเยรูซาเล็มูกล้อม3 ในวันนั้น เราจะกระทำให้เยรูซาเล็มเป็นศิลาหนักแก่บรรดาชนชาติทั้งหลาย ผู้ใดที่พยายามยกหินนั้นขึ้นจะกระทำให้ตัวเราเองบาดเจ็บอย่างาหัส และประชาชาติทั้งสิ้นในพิภพจะสมทบกันสู้เยรูซาเล็ม
วว.10. 14 เสียงนั้นสั่งทูตสวรรค์องค์ที่หกที่ถือแตรนั้นว่า "จงแก้มัดทูตสวรรค์ทั้งสี่ที่ถูกมัดไว้ที่แม่น้ำใหญ่นั้น คือแม่น้ำยูเฟรตีส"15 พระเจ้าทรงเตรียมทูตสวรรค์ทั้งสี่ไว้สำหรับชั่วโมง วัน เดือนและปี ที่จะให้ฆ่ามนุษย์เสียหนึ่งในสามส่วน
16 และมีพลทหารม้าสองร้อยล้าน นี่คือจำนวนที่ข้าพเจ้าได้ยิน
วว16.12 ทูตสวรรค์องค์ที่หกเทขันของ ตนลงที่แม่น้ำใหญ่ คือแม่น้ำยูเฟรตีสทำให้น้ำในแม่น้ำนั้นแห้ง เพื่อเตรียมมรรคาไว้สำหรับบรรดากษัตริย์ที่มาจากทิศตะวันออก13 และข้าพเจ้าเห็นผีโสโครกสามตนรูปร่างคล้ายกบ ออกมาจากปากพญานาค ออกจากปากสัตว์ร้ายนั้น และออกจากปากคนที่ปลอมตัวเป็นผู้ผยพระวจนะ14 ด้วยว่าผีเหล่านั้นเป็นผีร้ายกระทำหมายสำคัญ มันออกไปหากษัตริย์ทั้งปวงทั่วพิภพ เพื่อให้บรรดากษัตริย์เหล่านั้นร่วมกันทำสงคราม ในันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด15 (นี่แน่ะ เราจะแอบย่องมาเหมือนขโมย ผู้ที่ตื่นอยู่และรักษาเสื้อผ้าของตนไว้อย่างดีจะเป็นสุข เพราะว่าเขาไม่ต้องเดินเปลือยกายให้คนทั้งลายเห็น)16 และมันทั้งสามได้ชุมนุมพวกกษัตริย์ที่ตำบลหนึ่ง ซึ่งภาษาฮีบรูเรียกว่าอารมาเกดโดน
ศคย14.1 ดูเถิด วันแห่งพระเยโฮวาห์มาใกล้แล้ว เมื่อทรัพย์สินที่เขาริบไปจากเจ้านั้น เขาจะแบ่งกันท่ามกลางเจ้า2 เพราะเราจะรวบรวมประชาชาติทั้งสิ้นให้ทำศึกกับเยรูซาเล็ม เมืองนั้นจะถูกยึด บ้านเรือนจะถูกปล้นสะดมและผู้หญิงจะถูกข่มขืน พลเมืองครึ่งหนึ่งจะตกไปเป็นเชลย ประชาชนส่วนที่เหลืออยู่จะไม่ถูกตัดออกเสียจากเมือง3 แล้วพระเยโฮวาห์จะเสด็จออกไปต่อสู้กับประชาชาติเหล่านั้น เหมือนเมื่อพระองค์ทรงต่อสู้ในวันสงคราม

4 ใน
วันนั้นพระบาทของพระองค์จะยืนอยู่ที่ภูเขามะกอกเทศ ซึ่งอยู่หน้าเมืองเยรูซาเล็มด้านตะวันออก และภูเขามะกอกเทศนั้นจะแยกออกตรงกลางจากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตก โดยมีหุบเขากว้างมากคั่นอยู่ ภูเขาครึ่งหนึ่งจึงจะถอยไปทางเหนือ และอีกครึ่งหนึ่งจะถอยไปทางใต้5 และท่านทั้งหลายจะหนีไปยังหุบเขาแห่งบรรดา


ภูเขา เพราะว่าหุบเขาแห่งบรรดาภูเขาจะมาจดอาซาลและท่านทั้งหลายจะต้องหนีไป อย่างที่หนีจากแผ่นดินไหวสมัยอุสซียาห์กษัตริย์ประเทศยูดาห์ แล้วพระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพเจ้าจะเสด็จมา และพวกวิสุทธิชนทั้งสิ้นจะมากับพระองค์6 ต่อมาในวันนั้นแสงสว่างจะไม่แจ่มใสหรือจะไม่มืดมัว
2ธส 2.8 ขณะนั้นคนนอกกฎหมายนั้นก็จะ ปรากฏตัวขึ้น และพระเยซูเจ้าจะทรงประหารมันด้วยลมพระโอษฐ์ของพระองค์ และจะทรงผลาญให้สูญไปด้วยการปรากฏและการเสด็จมาของพระองค์ 9 คนนอกกฎหมายนั้นจะมาโดยการดลบันดาลของซาตาน พร้อมกับการอิทธิฤทธิ์ต่างๆ และหมายสำคัญ และการอัศจรรย์แห่งความเท็จ

วว19 .19 และข้าพเจ้าเห็นสัตว์นั้น และบรรดากษัตริย์บนแผ่นดินโลก พร้อมทั้งพลรบของกษัตริย์เหล่านั้น มาประชุมกันจะทำสงครามกับพระองค์ผู้ทรงม้า และกับพลโยธาของพระองค์20 สัตว์ร้ายนั้นถูกจับพร้อมด้วยคนที่ปลอมตัวเป็นผู้เผยพระวจนะ ที่ได้กระทำหมายสำคัญต่อหน้าสัตว์ร้ายนั้น และใช้หมายสำคัญนั้นล่อลวงนทั้งหลาย ที่ได้รับเครื่องหมายของสัตว์ร้ายนั้น และบูชารูปของมัน สัตว์ร้ายและคนที่ปลอมตัวเป็นผู้เผยพระวจนะ 21 และคนที่เหลืออยู่นั้น ก็ถูกฆ่าด้วยพระแสงที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์ ผู้ทรงม้านั้นเสีย และนกทั้งปวงก็กินเนื้อของคนเหล่านั้นจนอิ่ม
อสย 66:16 เพราะพระเยโฮวาห์จะทรงกระทำการพิพากษาด้วยไฟ และด้วยพระแสงของพระองค์เหนือเนื้อหนังทั้งสิ้น และผู้ที่พระเยโฮวาห์ทรงสังหารเสียจะมีมากมาย

ว 19:15 มีพระแสงคมออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์ เพื่อพระองค์จะได้ทรงฟันฟาดบรรดานานาประชาชาติด้วยพระแสงนั้น และพระองค์จะทรงครอบครองเขาด้วยคทาเหล็ก พระองค์จะทรงเหยียบบ่อย่ำองุ่นแห่งพระพิโรธอันเฉียบขาดของพระเจ้า ผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด

วว 19:21 และคนที่เหลืออยู่นั้น ก็ถูกฆ่าด้วยพระแสงที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์ผู้ทรงม้านั้นเสีย และนกทั้งปวงก็กินเนื้อของคนเหล่านั้นจนอิ่ม

ยรม 46:10 วันนั้นเป็นวันแห่งพระเจ้าจอมโยธา เป็นวันแห่งการ แก้แค้น ที่จะแก้แค้นศัตรูของพระองค์ ดาบจะกินจนอิ่ม และดื่มโลหิตของเขาจนเต็มราบ เพราะองค์สมเด็จพระเจ้าจอมโยธา ทำการบูชา ในแดนเหนือข้างแม่น้ำยูเฟรติส
อสย 27.1 ในวันนั้น พระเยโฮวาห์จะทรงลงโทษด้วยพระแสงอันร้ายกาจ ยิ่งใหญ่ และแข็งแกร่งของพระองค์ต่อเลวีอาธาน ซึ่งเป็นพญานาคที่ฉกกัด คือเลวีอาธานพญานาคที่ขด และพระองค์จะทรงประหารมังกรที่อยู่ในทะเล

วว 20.2 และท่านได้จับพญานาค ซึ่งเป็นงูดึกดำบรรพ์ ผู้ซึ่งเป็นพญามารและซาตาน และล่ามมันไว้พันปี3 แล้วทิ้งมันลงไปในเหวที่ไม่มีก้นเหวนั้น แล้วได้ลั่นกุญแจประทับตรา เพื่อไม่ให้มันล่อลวงบรรดาประชาชาติได้อีกต่อไป จนครบกำหนดพันปีแล้วหลังจากนั้นจะต้องปล่อยมันออกไปชั่วขณะหนึ่ง


4 ข้าพเจ้าได้เห็นบัลลังก์หลายบัลลังก์ และผู้ที่นั่งบนบัลลังก์นั้น ทรงมอบให้เป็นผู้ที่จะพิพากษา และข้าพเจ้ายังได้เห็นดวงวิญญาณของคนทั้งปวงที่ถูกตัดศีรษะ เพราะเป็นพยานของพระเยซู และเพราะพระวจนะของพระเจ้า และเป็นผู้ที่ไม่ได้บูชาสัตว์ร้ายนั้นหรือรูปของมัน และไม่ได้รับเครื่องหมายของมันไว้ที่หน้าผากหรือที่มือของเขา คนเหล่านั้นกลับมีชีวิตขึ้นมาใหม่ และได้ครอบครองร่วมกับพระคริสต์เป็นเวลาพันปี5 แต่คนอื่นๆที่ตายแล้วไม่ได้กลับมีชีวิตอีกจนกว่าจะครบกำหนดพันปี นี่แหละคือการฟื้นจากความตายครั้งแรก
ผู้เขียนไม่ต้องเขียนความเห็นตัวเองอะไรเลย  เอาคำพยากรณ์จากพระคัมภีร์มาต่อกันก็รู้เรื่องได้  เป็นพระคัมภีร์เล่าเรื่องจากข้อหนึ่งสู่ข้อหนึ่ง

จะเห็นได้ว่า พระเจ้าเปิดเผยเต็มไปหมด ตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อย บันทัดซ้อนบันทัด กฎซ้อนกฎ
จริงๆนี่เป็นเพียงมุมหนึ่ง คือ
มุมพยากรณ์ที่ถูกเรียง จากเรื่องเหตุการณ์ที่จะเกิดกับอิสราเอล เกี่ยวกับเหตุการเสด็จมาและสงคราม
นอกจากนั้นพระเจ้ายังเรียงเหตุการณ์ ผ่าน เรื่องตราแตรขัน  เป็นเรื่องเวลาในมุมมองที่แตกต่างกัน
เช่นตราของพระเจ้าเป็นมุมมองเรื่องการพยารณ์ที่จะเกิดขึ้นสำเร็จ
แตรของพระเจ้าเป็นหมายสำคัญในเรื่องการเตือนสู่กลียุค
และขันแห่งพระพิโรธ เป็นหมายสำคัญในเรื่องการพิพากษาในแต่ละช่วงและยังมีภาพเปรียบเทียบต่างๆเพื่อให้ผู้อ่านตีความ
ที่ว่าต้องตีความเพราะในสิ่งที่ผู้เผยพระวจนะเห็น ท่านก็ไม่รู้จัก เช่นรถถัง จรวดมิสไซดน์
ก็ถูกแทนด้วยคำว่าม้า หรือแมลงที่มีแสงพ่นกำมะถัน  หรือต้องการบอกว่ามีประเทศหนึ่ง ก็จะพยายามแสดงภาพผ่านสัตว์ต่างๆ เพื่อบอกลักษณะของประเทศนั้นๆ  เรื่องเหล่านี้เนื้อหาเยอะมาก
โอกาสหน้าจะได้มาเขียนแบบละเอียดขึ้นแน่นอนครับ

ชาโลม
ชนะ ชัยประเสริฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น