ตอนที่ 2
บัญญัติพระเจ้ากับเรื่องความสัมพันธ์ทางเพศ (กรณีล่วงประเวณี)
จากมุมมองจาก "ธรรมบัญญัติพระเจ้า"
จากมุมมองจาก "ธรรมบัญญัติพระเจ้า"
ตามที่กล่าวไปแล้ว่าการ “ร่วมประเวณี” นอกการสมรส ไม่ได้นับว่าเป็นการ ล่วงประเวณีเสมอไป เราจึงต้องมาศึกษาให้ละเอียด มิเช่นกันเราก็จะสอนกันอย่างคลาดเคลื่อนและหลายคนเข้าใจแบบเหมาเข่งว่าความสัมพันธ์ทางเพศนอกสมรสทุกอย่างคือบาปการล่วงประเวณีหมด เพราะไม่ศึกษาและทำความเข้าใจน้ำพระทัยพระเจ้าผ่านบัญญัติของพระองค์ หลายคนจึงลงโทษผู้เชื่อพระเจ้า อย่างไม่เข้าใจหรือไม่จัดการให้ถูกต้อง และคนส่วนมากที่ถูกตักเตือนหรือลงโทษเรื่องนี้ก็คือผู้ที่เริ่มมาเชื่อ ที่ยังไม่เติบโต
การทำความเข้าใจผู้เขียนขอ เริ่มจากการ แบ่งหญิงสาวในพระคัมภีร์แบ่งเป็นห้าประเภท (ไม่นับหญิงประเภทสองหรือสาวสองครับ)
1 หญิงพรหมจารี
2 หญิงมีคู่หมั้น
3 หญิงผิดประเวณีเมื่อยังไม่แต่งงาน
4 หญิงล่วงประเวณีเมื่อแต่งงานแล้ว
*ในวัฒนธรรมอิสราเอล จะไม่มีหญิงโสด เพราะคนอิสราเอลผู้หญิงต้องทำหน้าที่คลอดบุตร นั่นเพราะพระมาซีฮานั้นถูกสัญญาว่าจะมาเกิดผ่านชนชาติอิสราเอล การไม่ให้กำเนิดก็คือไม่ให้ความร่วมมือกับพระเจ้า ฉะนั้นหญิงหมันจึงนับเป็นความอดสู ทุกคนต้องมีสามีเพื่อทำหน้าที่คลอดบุตร ในสังคมอิสราเอลสมัยนั้นหญิงมีแววว่าจะโสดจึงถูกยกให้ไปทำหน้าที่ภรรยาที่สองที่สามกันไป
1 หญิงพรหมจารี หญิงที่ยังไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางเพศกับผู้ใด
เป็นหญิงประเภทที่ดีงามที่สุด ซึ่งปุโรหิตของพระเจ้า จะมีภรรยา ก็ต้องเป็นหญิงพรหมจารีเท่านั้น อสค 44:22 อย่าให้ปุโรหิตแต่งงานกับหญิงม่ายหรือหญิงที่ถูกหย่าแล้ว แต่ให้แต่งงานกับหญิงพรหมจารีจากเชื้อสายแห่งวงศ์วานอิสราเอล หรือหญิงม่ายซึ่งเป็นหญิงม่ายของปุโรหิต ปุโรหิตนั้นถูกแยกพิเศษเพื่อพระเจ้า เขาจึงต้องบริสุทธิ์ สิ่งที่พระเจ้ากำหนดให้หมายความว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ฉะนั้นการได้แต่งงานกับหญิงพรมจารี ก็นั้บว่าเป็นสิ่งที่ดีงามสำหรับผู้ชาย นี่คือมโนธรรมที่พระเจ้าใส่ไว้ในมนุษย์ชายหญิงแต่เริ่ม
ฉะนั้นการรักษาพรมจรรย์ คือสิ่งที่ผู้หญิงของพระเจ้าต้องรักษาไว้ และมีชายได้เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น จนกว่าชายนั้นจะตายจากไป นี่คือความสวยงามของชีวิตอันเป็นอุดมคติ
ย้อนมาดูที่ปัญหากันนะครับ ถ้าการที่หญิงพรหมจารี มีความสัมพันธ์ทางเพศ นอกสมรส เรียกล่วงประเวณี หรือไม่? ต้องมีโทษคือเอาหินขว้าง หรือไม่?
เรามาดูกรณีที่พระบัญญัติยกมาให้เข้าใจอย่างละเอียดขึ้น
อพย 22:16 ถ้าผู้ใด (ผู้ชาย) ล่อลวงหญิงพรหมจารีที่ยังไม่มีคู่หมั้นและนอนร่วมกับหญิงนั้น (หญิงนั้นสมยอม) ผู้นั้นจะต้องเสียเงินสินสอด และต้องรับหญิงนั้นเป็นภรรยาของตน
“กรณีนี้ไม่เรียกว่าล่วงประเวณี นะครับ และไม่มีโทษที่ต้องเอาหินขว้าง แม้นเป็นความสัมพันธ์ทางเพศ นอกสมรส “
กรณีนี้ผู้หญิงสามารถมัดผู้ชายให้แต่งงานได้เลย และได้สินสอดด้วย ( ถ้ามีพยานสองสามปาก ) พูดง่ายๆคือต่างคนต่างสมยอมนั่นเอง ก็จบกันแบบแฮปปี้ได้
ดูต่อครับ
อพย 22:17 แต่ถ้าบิดาไม่ยอมอย่างเด็ดขาดที่จะยกหญิงนั้นให้เป็นภรรยา เขาก็ต้องเสียเงินเท่าสินสอดตามธรรมเนียมสู่ขอหญิงพรหมจารีนั้นดุจกัน
แม้นลูกจะชอบพออย่างไร ถ้าพ่อไม่เห็นด้วย ก็แต่งงานไม่ได้นั่นเอง แถมผู้ชายต้องจ่ายเงินค่าสินสอดไปให้ด้วย แต่ไม่ได้เจ้าสาว
ฉะนั้นผลของบัญญัติข้อนี้ทำให้ไปขอดีๆดีกว่า ผู้ชายต้องเอาชนะใจพ่อตาให้ได้ อย่าให้พ่อโกรธ เพราะนิสัยการไปมีอะไรกันลับหลัง เสี่ยงที่คุณพ่อจะไม่พอใจ พาลไม่ยกลูกสาวให้
ทำไมบิดาไม่พอใจ ? นอกจากเป็นกรณีที่แอบไปตัดสินใจเองแล้วของลูก ก็มีอีกเรื่องคือเพราะมีบัญญัติที่จะกล่าวหาหญิงที่ประพฤติเช่นนี้คือ “เป็นโสเภณีในบ้านบิดา” ซึ่งเป็นความบาปร้ายแรงอีกเคสหนึ่งจะเขียนต่อในตอนหน้า
แต่ถ้าบิดาเห็นชอบกับผู้ชายก็ยกให้ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่โดยมากยกให้เพราะ ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่หญิงพรหมจารีอีกแล้ว และชายนั้นต้องรับหญิงนั้นไป
การที่บัญญัติทิ้งให้เป็นการเห็นชอบของบิดาผู้หญิงด้วย เพราะบางครั้งลูกเขยอาจเป็นคนที่พ่อตาไม่ชอบจริงๆ เช่นเกิดพลาดไปกับคนต่างชาติ ที่นับถือรูปเคารพ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการของลูกสาวที่ยังเด็ก บิดาก็ยังช่วยให้สามารถแก้ไขได้นั่นเองด้วยการปฎิเสธ
การที่บัญญัติทิ้งให้เป็นการเห็นชอบของบิดาผู้หญิงด้วย เพราะบางครั้งลูกเขยอาจเป็นคนที่พ่อตาไม่ชอบจริงๆ เช่นเกิดพลาดไปกับคนต่างชาติ ที่นับถือรูปเคารพ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการของลูกสาวที่ยังเด็ก บิดาก็ยังช่วยให้สามารถแก้ไขได้นั่นเองด้วยการปฎิเสธ
ฉะนั้นส่วนมากแล้วเพื่อป้องกันการถูกล่อลวง เมื่อเป็นสาวแล้วพ่อแม่จะหาคู่หมั้นให้ทันที การหมั้นสะท้อนพระลักษณะพระเจ้าที่หมั้นคริสตจักรเอาไว้
เพราะถ้าไม่หมั้นไว้ หมายถึงจะเสี่ยงที่มีกรณีแบบน้ีเกิดขึ้น
พบญ22:28 ถ้าชายคนหนึ่งพบหญิงพรหมจารียังไม่มีคนหมั้น เขาจึงจับตัวเธอและได้ร่วมกับเธอ (โดนข่มขืน ) มีผู้รู้เห็น (ฟ้องพยานสองสามปาก)
29 แล้วชายผู้ที่ได้ร่วมกับเธอนั้นจะต้องมอบเงินห้าสิบเชเขลให้แก่บิดาของหญิงสาวคนนั้น และเธอจะตกเป็นภรรยาของเขา เพราะเขาได้หยามเกียรติเธอ เขาจะหย่าร้างเธอไม่ได้ตลอดชีวิตของเขา
การหมั้นไว้ก่อนจึงป้องกันการถูกจับไปข่มขืน เพราะถ้าถูกข่มขืนต้องตกไปเป็นของชายคนนั้น อีกประการคือผลที่ตามมา คนอิสราเอลจะแต่งตัวมิดชิดเพื่อไม่ให้เกิดกรณีนี้ขึ้น เพราะกฎหมายการข่มขืนหญิงพรมจารี ผู้ชายโดนแค่ปรับและรับไปเป็นภรรยา ผู้หญิงพรหมจารีพ่อจึงรีบหาคู่หมั้นให้ เช่นนางมารีย์ มารดาพระเยซู เมื่อโตขึ้นแล้วก็มีคู่หมั้นทันที (ประมาณ อายุ13)
ผู้หญิงพรหมจารีที่ไม่ได้หมั้นจึงหมายถึงผู้หญิงที่ไม่มีใครอยากรับเอาเป็นภรรยา จึงไม่มีเจ้าของมาหมั้น ถ้ามีคนมาข่มขืน คนมาข่มขืนก็ต้องรับไป เพราะอย่างไรก็หาคู่ไม่ได้ ถ้าพิจราณาลึกๆอีกมุม ความช้ำชอกอาจอยู่ที่ผู้ชายคนนั้นต้องรับไป และห้ามเลิก เพราะเธอเป็นหญิงพรมจาร ฉะนั้นห้ามหย่าตลอดชีวิต ลักษณะการร่วมประเวณีแบบนี้ไม่นับเป็นการ ล่วงประเวณีที่ต้องเอาหินขว้างตายนะครับ และเงินห้าสิบเชเขล ก็เป็นเงินไม่ได้มากมายเทียบกับค่าครองชีพปัจจุบัน คือ 60,000 บาท

เหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นในยุคผู้วินิฉัย เมื่อเผ่าเบนจมินพ่ายสงครามและเผ่านี้จะไม่มีลูกหลานผู้สืบทอด เผ่าอื่นๆจึงอนุญาตให้ชายเผ่าเบนจมินไปฉุดผู้หญิงพรมจารีไม่มีคู่หมั้นไปเป็นภรรยา (ผวฉ. 21:18-21)
ฉะนั้นสรุปว่าหญิงพรหมจารี มีความสัมพันธ์ทางเพศก่อนแต่งงาน จึงไม่นับว่า เป็นบาปการล่วงประเวณี ที่เป็นบาปตายต้องเอาหินขว้าง แต่เป็นเรื่องที่ต้องจัดการให้เหมาะสมต่อไป ตามธรรมบัญญัติ
* ต่อตอนหน้านะครับ
""""""""""""
ติดตาม
เรื่องบัญญัติพระเจ้ากับเรื่องความสัมพันธ์ทางเพศ เกี่ยวกับการล่วงประเวณี
ตอนที่1 http://faithful-creation.blogspot.com/2018/02/blog-post.html
ตอนที่ 2 http://faithful-creation.blogspot.com/2018/02/1-2-3-4-5-1-4422-2216-2217-2228-29-13.html
ตอนที่ 3 http://faithful-creation.blogspot.com/2018/02/3-2-2223-24-2-112-1310-2225-26-27-1717-p.html
ตอนที่ 4 http://faithful-creation.blogspot.com/2018/02/4-3-3.html
ตอนที่ 5 http://faithful-creation.blogspot.com/2018/02/5-5-196-518.html
ตอนที่ 4 http://faithful-creation.blogspot.com/2018/02/4-3-3.html
ตอนที่ 5 http://faithful-creation.blogspot.com/2018/02/5-5-196-518.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น