วันศุกร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561



ตอนที่ 2
บัญญัติพระเจ้ากับเรื่องความสัมพันธ์ทางเพศ (กรณีล่วงประเวณี)
จากมุมมองจาก "ธรรมบัญญัติพระเจ้า"

ตามที่กล่าวไปแล้ว่าการ “ร่วมประเวณี” นอกการสมรส ไม่ได้นับว่าเป็นการ ล่วงประเวณีเสมอไป เราจึงต้องมาศึกษาให้ละเอียด มิเช่นกันเราก็จะสอนกันอย่างคลาดเคลื่อนและหลายคนเข้าใจแบบเหมาเข่งว่าความสัมพันธ์ทางเพศนอกสมรสทุกอย่างคือบาปการล่วงประเวณีหมด  เพราะไม่ศึกษาและทำความเข้าใจน้ำพระทัยพระเจ้าผ่านบัญญัติของพระองค์   หลายคนจึงลงโทษผู้เชื่อพระเจ้า อย่างไม่เข้าใจหรือไม่จัดการให้ถูกต้อง  และคนส่วนมากที่ถูกตักเตือนหรือลงโทษเรื่องนี้ก็คือผู้ที่เริ่มมาเชื่อ ที่ยังไม่เติบโต

การทำความเข้าใจผู้เขียนขอ เริ่มจากการ แบ่งหญิงสาวในพระคัมภีร์แบ่งเป็นห้าประเภท (ไม่นับหญิงประเภทสองหรือสาวสองครับ)

1 หญิงพรหมจารี
2 หญิงมีคู่หมั้น
3 หญิงผิดประเวณีเมื่อยังไม่แต่งงาน
4 หญิงล่วงประเวณีเมื่อแต่งงานแล้ว
5 หญิงหม้าย

*ในวัฒนธรรมอิสราเอล จะไม่มีหญิงโสด เพราะคนอิสราเอลผู้หญิงต้องทำหน้าที่คลอดบุตร นั่นเพราะพระมาซีฮานั้นถูกสัญญาว่าจะมาเกิดผ่านชนชาติอิสราเอล การไม่ให้กำเนิดก็คือไม่ให้ความร่วมมือกับพระเจ้า ฉะนั้นหญิงหมันจึงนับเป็นความอดสู ทุกคนต้องมีสามีเพื่อทำหน้าที่คลอดบุตร  ในสังคมอิสราเอลสมัยนั้นหญิงมีแววว่าจะโสดจึงถูกยกให้ไปทำหน้าที่ภรรยาที่สองที่สามกันไป

1 หญิงพรหมจารี  หญิงที่ยังไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางเพศกับผู้ใด

เป็นหญิงประเภทที่ดีงามที่สุด ซึ่งปุโรหิตของพระเจ้า จะมีภรรยา ก็ต้องเป็นหญิงพรหมจารีเท่านั้น  อสค 44:22 อย่าให้ปุโรหิตแต่งงานกับหญิงม่ายหรือหญิงที่ถูกหย่าแล้ว แต่ให้แต่งงานกับหญิงพรหมจารีจากเชื้อสายแห่งวงศ์วานอิสราเอล หรือหญิงม่ายซึ่งเป็นหญิงม่ายของปุโรหิต    ปุโรหิตนั้นถูกแยกพิเศษเพื่อพระเจ้า เขาจึงต้องบริสุทธิ์ สิ่งที่พระเจ้ากำหนดให้หมายความว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด  ฉะนั้นการได้แต่งงานกับหญิงพรมจารี ก็นั้บว่าเป็นสิ่งที่ดีงามสำหรับผู้ชาย นี่คือมโนธรรมที่พระเจ้าใส่ไว้ในมนุษย์ชายหญิงแต่เริ่ม
ฉะนั้นการรักษาพรมจรรย์ คือสิ่งที่ผู้หญิงของพระเจ้าต้องรักษาไว้ และมีชายได้เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น จนกว่าชายนั้นจะตายจากไป  นี่คือความสวยงามของชีวิตอันเป็นอุดมคติ

ย้อนมาดูที่ปัญหากันนะครับ ถ้าการที่หญิงพรหมจารี  มีความสัมพันธ์ทางเพศ นอกสมรส เรียกล่วงประเวณี หรือไม่? ต้องมีโทษคือเอาหินขว้าง หรือไม่?
เรามาดูกรณีที่พระบัญญัติยกมาให้เข้าใจอย่างละเอียดขึ้น

อพย 22:16 ถ้าผู้ใด (ผู้ชาย) ล่อลวงหญิงพรหมจารีที่ยังไม่มีคู่หมั้นและนอนร่วมกับหญิงนั้น  (หญิงนั้นสมยอม) ผู้นั้นจะต้องเสียเงินสินสอด และต้องรับหญิงนั้นเป็นภรรยาของตน
“กรณีนี้ไม่เรียกว่าล่วงประเวณี นะครับ และไม่มีโทษที่ต้องเอาหินขว้าง แม้นเป็นความสัมพันธ์ทางเพศ นอกสมรส “
กรณีนี้ผู้หญิงสามารถมัดผู้ชายให้แต่งงานได้เลย และได้สินสอดด้วย ( ถ้ามีพยานสองสามปาก ) พูดง่ายๆคือต่างคนต่างสมยอมนั่นเอง ก็จบกันแบบแฮปปี้ได้

ดูต่อครับ
 อพย 22:17 แต่ถ้าบิดาไม่ยอมอย่างเด็ดขาดที่จะยกหญิงนั้นให้เป็นภรรยา เขาก็ต้องเสียเงินเท่าสินสอดตามธรรมเนียมสู่ขอหญิงพรหมจารีนั้นดุจกัน

แม้นลูกจะชอบพออย่างไร ถ้าพ่อไม่เห็นด้วย ก็แต่งงานไม่ได้นั่นเอง แถมผู้ชายต้องจ่ายเงินค่าสินสอดไปให้ด้วย แต่ไม่ได้เจ้าสาว 
ฉะนั้นผลของบัญญัติข้อนี้ทำให้ไปขอดีๆดีกว่า  ผู้ชายต้องเอาชนะใจพ่อตาให้ได้  อย่าให้พ่อโกรธ  เพราะนิสัยการไปมีอะไรกันลับหลัง เสี่ยงที่คุณพ่อจะไม่พอใจ พาลไม่ยกลูกสาวให้

ทำไมบิดาไม่พอใจ ? นอกจากเป็นกรณีที่แอบไปตัดสินใจเองแล้วของลูก ก็มีอีกเรื่องคือเพราะมีบัญญัติที่จะกล่าวหาหญิงที่ประพฤติเช่นนี้คือ “เป็นโสเภณีในบ้านบิดา”  ซึ่งเป็นความบาปร้ายแรงอีกเคสหนึ่งจะเขียนต่อในตอนหน้า
แต่ถ้าบิดาเห็นชอบกับผู้ชายก็ยกให้ก็ไม่มีปัญหาอะไร  แต่โดยมากยกให้เพราะ ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่หญิงพรหมจารีอีกแล้ว และชายนั้นต้องรับหญิงนั้นไป

การที่บัญญัติทิ้งให้เป็นการเห็นชอบของบิดาผู้หญิงด้วย เพราะบางครั้งลูกเขยอาจเป็นคนที่พ่อตาไม่ชอบจริงๆ เช่นเกิดพลาดไปกับคนต่างชาติ ที่นับถือรูปเคารพ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการของลูกสาวที่ยังเด็ก บิดาก็ยังช่วยให้สามารถแก้ไขได้นั่นเองด้วยการปฎิเสธ
ฉะนั้นส่วนมากแล้วเพื่อป้องกันการถูกล่อลวง เมื่อเป็นสาวแล้วพ่อแม่จะหาคู่หมั้นให้ทันที การหมั้นสะท้อนพระลักษณะพระเจ้าที่หมั้นคริสตจักรเอาไว้
เพราะถ้าไม่หมั้นไว้ หมายถึงจะเสี่ยงที่มีกรณีแบบน้ีเกิดขึ้น

พบญ22:28 ถ้าชายคนหนึ่งพบหญิงพรหมจารียังไม่มีคนหมั้น เขาจึงจับตัวเธอและได้ร่วมกับเธอ  (โดนข่มขืน ) มีผู้รู้เห็น (ฟ้องพยานสองสามปาก)
29 แล้วชายผู้ที่ได้ร่วมกับเธอนั้นจะต้องมอบเงินห้าสิบเชเขลให้แก่บิดาของหญิงสาวคนนั้น และเธอจะตกเป็นภรรยาของเขา เพราะเขาได้หยามเกียรติเธอ เขาจะหย่าร้างเธอไม่ได้ตลอดชีวิตของเขา

การหมั้นไว้ก่อนจึงป้องกันการถูกจับไปข่มขืน เพราะถ้าถูกข่มขืนต้องตกไปเป็นของชายคนนั้น  อีกประการคือผลที่ตามมา คนอิสราเอลจะแต่งตัวมิดชิดเพื่อไม่ให้เกิดกรณีนี้ขึ้น เพราะกฎหมายการข่มขืนหญิงพรมจารี ผู้ชายโดนแค่ปรับและรับไปเป็นภรรยา   ผู้หญิงพรหมจารีพ่อจึงรีบหาคู่หมั้นให้ เช่นนางมารีย์ มารดาพระเยซู เมื่อโตขึ้นแล้วก็มีคู่หมั้นทันที (ประมาณ อายุ13)
ผู้หญิงพรหมจารีที่ไม่ได้หมั้นจึงหมายถึงผู้หญิงที่ไม่มีใครอยากรับเอาเป็นภรรยา จึงไม่มีเจ้าของมาหมั้น  ถ้ามีคนมาข่มขืน คนมาข่มขืนก็ต้องรับไป เพราะอย่างไรก็หาคู่ไม่ได้ ถ้าพิจราณาลึกๆอีกมุม ความช้ำชอกอาจอยู่ที่ผู้ชายคนนั้นต้องรับไป และห้ามเลิก เพราะเธอเป็นหญิงพรมจาร  ฉะนั้นห้ามหย่าตลอดชีวิต  ลักษณะการร่วมประเวณีแบบนี้ไม่นับเป็นการ ล่วงประเวณีที่ต้องเอาหินขว้างตายนะครับ  และเงินห้าสิบเชเขล ก็เป็นเงินไม่ได้มากมายเทียบกับค่าครองชีพปัจจุบัน คือ 60,000 บาท

 ภาพเปรียบตอนนี้เราจะเห็นได้ว่า คริสตจักรที่ไม่ได้หมั้นกับพระคริสต์  หรือคนที่มาเชื่อแต่ไม่ได้มีเครื่องหมายแห่งการหมั่นของพระวิญญาณ เขาจะตกเป็นของคนอื่นได้อย่างง่ายๆ  การแสวงหาการหมั้นหมายของพระเจ้าเพื่อประทับตราเราเป็นของพระองค์จึงสำคัญ
2 คร 1:22 และพระองค์ทรงประทับตราเรา และประทานพระวิญญาณไว้ในใจของเราเป็นมัดจำ(หมั้นหมาย)ด้วย

เหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นในยุคผู้วินิฉัย เมื่อเผ่าเบนจมินพ่ายสงครามและเผ่านี้จะไม่มีลูกหลานผู้สืบทอด เผ่าอื่นๆจึงอนุญาตให้ชายเผ่าเบนจมินไปฉุดผู้หญิงพรมจารีไม่มีคู่หมั้นไปเป็นภรรยา  (ผวฉ. 21:18-21)

ฉะนั้นสรุปว่าหญิงพรหมจารี มีความสัมพันธ์ทางเพศก่อนแต่งงาน  จึงไม่นับว่า เป็นบาปการล่วงประเวณี  ที่เป็นบาปตายต้องเอาหินขว้าง แต่เป็นเรื่องที่ต้องจัดการให้เหมาะสมต่อไป  ตามธรรมบัญญัติ

* ต่อตอนหน้านะครับ



""""""""""""

ติดตาม
เรื่องบัญญัติพระเจ้ากับเรื่องความสัมพันธ์ทางเพศ เกี่ยวกับการล่วงประเวณี

ตอนที่1 http://faithful-creation.blogspot.com/2018/02/blog-post.html

ตอนที่ 2 http://faithful-creation.blogspot.com/2018/02/1-2-3-4-5-1-4422-2216-2217-2228-29-13.html

ตอนที่ 3 http://faithful-creation.blogspot.com/2018/02/3-2-2223-24-2-112-1310-2225-26-27-1717-p.html

ตอนที่ 4 http://faithful-creation.blogspot.com/2018/02/4-3-3.html

ตอนที่ 5 http://faithful-creation.blogspot.com/2018/02/5-5-196-518.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น