วันศุกร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2561

พระเจ้าสร้างโลก ด้วยการบัพติสมา



ปฐก 1:1 ในเริ่มแรกนั้นพระเจ้าทรงเนรมิตสร้างฟ้าและแผ่นดินโลก
2 แผ่นดินโลกนั้นก็ปราศจากรูปร่างและว่างเปล่าอยู่ ความมืดอยู่เหนือผิวน้ำ และพระวิญญาณของพระเจ้าปกอยู่เหนือผิวน้ำนั้น

ในปฐมกาล 1:2 แผ่นดินโลกนั้นก็ปราศจากรูปร่าง  ใช้คำฮีบรูว่า תֹּ֫הוּ (Tuhu) หมายถึงความสับสนวุ่นวาย การไร้รูปร่าง ในสภาพที่ควรจะเป็น  เพราะความมืดนั้นอยู่เหนือผิวน้ำนั้น 

ความมืดในที่นี้คือความมืดฝ่ายวิญญาณ หรืออาจกล่าวได้ว่า ในเวลานั้นมารซาตานได้ถูกไล่ลงมายังโลกพร้อมสมุนของมัน 1 ในสามของสวรรค์ เป็นอำนาจมืดที่ครอบคลุมอยู่เหนือโลก

วิววรณ์12: 7 และมีสงครามเกิดขึ้นในสวรรค์ มีคาเอลและพวกทูตสวรรค์ของท่านได้ต่อสู้กับพญานาค และพญานาคกับพวกทูตของมันก็ต่อสู้
8 แต่ฝ่ายพญานาคแพ้ และพวกพญานาคไม่มีที่อยู่ในสวรรค์อีกเลย
9 พญานาคใหญ่ซึ่งเป็นงูดึกดำบรรพ์ ที่เขาเรียกกันว่า พญามารและซาตาน ผู้ล่อลวงมนุษย์ทั้งโลก พญานาคและพวกทูตของมันก็ถูกผลักทิ้งลงมาในแผ่นดินโลก



เมื่อโลกอยู่ในความมืดและไร้รูปร่างสับสน ที่เรียกว่า 
 תֹּ֫הוּ (Tuhu) นั้น  พระเจ้าต้องการนำโลกมาถึงความสว่าง ฉะนั้นจึงต้องผ่านการชำระล้างและการชำระล้างนั้น พระเจ้าออกแบบโดยผ่านพิธี มิกวา หรือบัตติศมา

ซึ่งเราเห็นภาพการบัพติศมาหลายรูปแบบในพระคัมภีร์
ตั้งแต่การผ่านทะเลแดง ของชนชาติอิสราเอล 
1 คธ10:1 บรรพบุรุษของเราทั้งสิ้นได้อยู่ใต้เมฆ และได้ผ่านทะเลไปทุกคน
ได้รับบัพติศมาในเมฆและในทะเลเข้าส่วนกับโมเสสทุกคน



หรือการบัพติสมาโดยผ่านแม่น้ำจอร์แดนโดยการนำของโยชูวา
การจุ่มลงทั้ง 7 ครั้งของแม่ ทัพนามาน เพื่อรับผิวหนังใหม่

และสิ่งที่เป็นมลทิน พระเจ้าให้มนุษย์นั้นล้างด้วยน้ำ อาบน้ำ ชำระตัว
การเข้าหาพระเจ้าก็ต้องบริสุทธิ์สะอาด  และชำระด้วยน้ำเสมอ

น้ำจึงเป็นสะสารพิเศษที่พระเจ้าสร้างขึ้นบนโลกนี้อย่างมีวัตถุประสงค์เพื่อชำระ
การบัพติศมามีหลายบัพติศมา  ที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือการบัพติศมาเข้าส่วนกับความตายของพระเยซุและฟื้นมากับพระองค์  นั่นทำให้ได้ชีวิตใหม่แท้จริงกจ 19:3 เปาโลจึงถามเขาว่า "ถ้าอย่างนั้นท่านได้รับบัพติศมาอันใดเล่า" เขาตอบว่า "บัพติศมาของยอห์น"
4เปาโลจึงว่า "ยอห์นให้รับบัพติศมาสำแดงถึงการกลับใจใหม่ก็จริง แล้วบอกคนทั้งปวงให้เชื่อในพระองค์ผู้จะเสด็จมาภายหลังคือพระเยซูคริสต์"
5เมื่อเขาได้ยินอย่างนั้น เขาจึงรับบัพติศมาในพระนามของพระเยซูเจ้า



และน้ำนั้นมีความหมายถึงพระเยซู พระเยซูทรงเป็นผู้ชำระ และพระองค์คือน้ำแห่งชีวิต(คำว่าชูอาห์ แปลว่าน้ำด้วย)

วว 22:1 ท่านได้ชี้ให้ข้าพเจ้าดูแม่น้ำบริสุทธิ์ที่มีน้ำแห่งชีวิต ใสเหมือนแก้วผลึก ไหลออกมาจากพระที่นั่งของพระเจ้า และของพระเมษโปดก(ของพระเยซู)

ในพระองค์มีน้ำแห่งชีวิต
ยน 4:14 แต่ผู้ใดที่ดื่มน้ำซึ่งเราจะให้แก่เขานั้นจะไม่กระหายอีกเลย แต่น้ำซึ่งเราจะให้เขานั้นจะบังเกิดเป็นบ่อน้ำพุในตัวเขาพลุ่งขึ้นถึงชีวิตนิรันดร์"


พระเจ้าให้น้ำปกคลุมโลก โลกเพื่อสะท้อนพระสิริของพระเจ้า
และบัพติศมาโลกอยู่ หรือชำระล้างล้างโลก

ฉะนั้นภาพใน ปฐก1:2 จึงเป็นภาพของ การบัพติศมา ในตราวที่พระเยซุเสด็จขึ้นจากน้ำด้วย คือมีพระวิญญาณพระเจ้า   และพระวาทะ อยู่เบื้องบนตรัสรองรอบการชำระครั้งนั้น (ซึ่งในบทความก่อนๆผมได้อธิบายถึงการชำรพล้างระบบปุโรหิตเก่าของอาโรนไป)

เมื่อมีการชำระเเล้วจึงมีการบังเกิดใหม่
เมื่อนั้นพระเจ้าจึงตรัสเรียกความสว่างเกิดขึ้น

3 พระเจ้าตรัสว่า "จงให้มีความสว่าง" แล้วความสว่างก็เกิดขึ้น
4 พระเจ้าทรงเห็นว่าความสว่างนั้นดี และพระเจ้าทรงแยกความสว่างนั้นออกจากความมืด



ฉะนั้นในวันที่ 1 ของการทรงสร้างพระเจ้าจึงทรงแยกมิติฝ่ายวิญญาณออกเป็น สองมิติ นั้นคือความมืดของเหล่าวิญญาณชั่วและความสว่างที่พระเจ้าทรงสร้างของมนุษย์

เรามาพิสูจน์การตีความนี้โดยผ่าน หนังสือยอห์น


ยน" 1:4 ในพระองค์มีชีวิต และชีวิตนั้นเป็นความสว่างของมนุษย์ทั้งปวง
5 ความสว่างนั้นส่องเข้ามาในความมืด และความมืดหาได้เข้าใจความสว่างไม่
6 มีชายคนหนึ่งที่พระเจ้าทรงใช้มา ชื่อยอห์น
7 ท่านผู้นี้มาเพื่อเป็นพยาน เพื่อเป็นพยานถึงความสว่างนั้น เพื่อคนทั้งปวงจะได้มีความเชื่อเพราะท่าน


ยน 1 ได้กล่าวถึงความสว่างที่ส่องลงมายังโลก
แต่ คนไม่รู้จัก ความสว่างนั้น  
พระเจ้าจึงต้องใช้ยอห์น มาเป็นพยานถึงความสว่างนั้น
และการมาเป็นพยานของยอห์นเพื่อนนำทางความสว่างนั้นก็คือ
สอนให้กลับใจและ​ "รับบัพติศมา" การรับบัพติศมาจึงเป็นการล้างเพื่อถูกสร้างใหม่  เพื่อมีส่วนในความสว่างนั้น

ฉะนั้นจึงสรุปได้ว่า
1 โลกนั้นรับการ "มิกวา" หรือชำระด้วยน้ำ คือการบัพติศมา ก่อนจะกำเนิดสิ่งใหม่
2 การบัพติศมาจึงนำมาถึงการมีความสว่าง และมีส่วนในความสว่างนั้น
3 เมื่อสร้างโลกพระเจ้าแยกวิญญาณชั่วออกไปก่อน การเริ่มต้นสิ่งใดก็ควรผูกมัดก่อนเช่นกัน
3 พระเยซูคือผู้ไถ่และผู้ชำระ พระองค์คือน้ำ และเป็นน้ำแห่งชีวิตนั้น

ยน 3:5 พระเยซูตรัสตอบว่า "เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ถ้าผู้ใดไม่ได้บังเกิดจากน้ำและพระวิญญาณ ผู้นั้นจะเข้าในอาณาจักรของพระเจ้าไม่ได้






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น